dong
Exclusive Group
Super Hero Member
     
ออฟไลน์
กระทู้: 3,941
|
 |
« เมื่อ: ธันวาคม 03, 2012, 01:36:16 PM » |
|
Fenix E50 ครับ     รายละเอียด ยี่ห้อ : Fenix รุ่น : E50 ชนิดหลอด : Cree XM-L T6 LED รุ่นแสงอมเหลือง อายุหลอด : 5 หมื่นชั่วโมง ความสว่างสูงสุด : 780 ANSI ลูเมนส์ ความเข้มแสงที่จุดศูนย์กลาง : 15278 cd ระดับความสว่าง : เทอร์โบ 780 ลูเมนส์ 1:45 ชม, สูง 236 ลูเมนส์ 8:30 ชม., กลาง 74 ลูเมนส์ 28:30 ชม., ต่ำ 23 ลูเมนส์ 80 ชม (ทดสอบด้วยแบต 18650 2600mA) จังหวะกระพริบ : - ระยะส่องไกล : 260 เมตร ชนิดแบตเตอรี่ : 18650 x 1 หรือ 18650 x 2 (หรือ CR123 3.0 x 4) ลักษณะสวิทซ์: แบบกด (อยู่ที่คอไฟฉาย) วัสดุบอดี้ : อลูมิเนียมเกรดอากาศยาน ชนิดเคลือบบอดี้ : HA III (มีความแข็งแกร่งมากกว่า HAII ถึง 300 เท่า) ลักษณะโคมสะท้อนแสง : ผิวเรียบ ชนิดเลนส์ : กระจกโค๊ทรุ่นพิเศษ แสงผ่านได้ถึง 97% ขนาด : บอดี้ 2.4 ซม. x ยาว 20.7 ซม. หัว 4 ซม น้ำหนัก : 146.6 กรัม สี : ดำ มาตรฐานกันน้ำ : IPX-8 มาตรฐานกันกระแทก : 1 เมตร อุปกรณ์ที่ให้ : 1. โอริงกันน้ำ (สำรอง) 2. ซองเหน็บไฟฉาย 3. คู่มือการใช้งาน 4. แกนเสริม สำหรับใช้แบต 18650 x 2 ก้อน วิธีปรับความสว่าง 1, กดปุ่มค้างไว้ ประมาณ ครึ่งวินาที เพื่อปิด หรือ เปิดไฟฉาย 2. หลังจากไฟฉายติดแล้ว กดปุมเพื่อเปลี่ยนระดับแสง หมายเหตุ : 1, ไฟฉายรุ่นนี้ มีระบบจำโหมดสุดท้าย ข้อมูลจาก http://www.thaipowerlight.com/Fenix-E50
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 22, 2012, 10:38:39 AM โดย dong »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
dong
Exclusive Group
Super Hero Member
     
ออฟไลน์
กระทู้: 3,941
|
 |
« ตอบ #1 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2012, 01:46:13 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
dong
Exclusive Group
Super Hero Member
     
ออฟไลน์
กระทู้: 3,941
|
 |
« ตอบ #2 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2012, 01:58:09 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
dong
Exclusive Group
Super Hero Member
     
ออฟไลน์
กระทู้: 3,941
|
 |
« ตอบ #3 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2012, 02:06:39 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
dong
Exclusive Group
Super Hero Member
     
ออฟไลน์
กระทู้: 3,941
|
 |
« ตอบ #5 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2012, 02:12:08 PM » |
|
เริ่มทดสอบครับ  ทดสอบการกินกระแส โหมด ใช้แบต 1 ก้อน ใช้แบต 2 ก้อน Lo 52.3 mA 32.4 mA Mid 157 mA 86.8 mA Hi 0.53 A 296.5 mA Turbo 2.86 A 1.38 A Standby มีการจิบกระแสอยู่บ้างครับ แบต 1 ก้อน จิบกระแส 0.1 mA แบต 2 ก้อน จิบกระแส 0.145 mA ถ้าไม่อยากให้จิบกระแสเลย ก็คลายฝาท้ายนิดนึงครับ 
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 04, 2012, 01:35:51 PM โดย dong »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
dong
Exclusive Group
Super Hero Member
     
ออฟไลน์
กระทู้: 3,941
|
 |
« ตอบ #11 เมื่อ: ธันวาคม 03, 2012, 02:13:24 PM » |
|
Runtime ครับ  ทดสอบในห้องแอร์และมีพัดลมเป่าใช้ไฟฉาย เปิดโหมด Turbo ต่อเนื่อง ตัวนี้จะตัดเป็น Hi ทุก 15 นาที พอตัดลง Hi ผมก็กดเปลี่ยนโหมดเป็น Turbo ทันที จะหยุดเมื่อแสงเหลือ 50% หรือตัดดับครับ ใช้แบต dinosaur 3400 mA สองก้อนในการทดสอบ เริ่ม  10 นาที  20 นาที  30 นาที  ให้ดูจังหวะตัดเหลือ Hi ครับ  แล้วผมก็กดเป็น Turbo (กดทุกๆ 15 นาที)  1 ชั่วโมง  1ชั่วโมง 15 นาที  1 ชั่วโมง 30 นาที  1 ชั่วโมง 50 นาที  2 ชั่วโมง  ตัดดับที่ 2 ชั่วโมง 6 นาที  เป็นไฟฉายที่รักษาระดับได้ดี มีขึ้นลงบ้างตามอุณหภูมิห้อง แต่ใช้งานจริง ถ้าอากาศไม่หนาวมาก ไม่ควรเปิด Turbo ต่อเนื่องยาวๆนะครับ ไฟฉายจะร้อนจัด ถ้าไม่กดเป็น Turbo หลังจากตัดแล้ว จะได้ Runtime ยาวขึ้นอีกเยอะครับ 
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 22, 2012, 10:28:12 AM โดย dong »
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
doraemink
Jr. Member
 
ออฟไลน์
กระทู้: 80

|
 |
« ตอบ #19 เมื่อ: ธันวาคม 04, 2012, 01:00:12 AM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
dong
Exclusive Group
Super Hero Member
     
ออฟไลน์
กระทู้: 3,941
|
 |
« ตอบ #40 เมื่อ: ธันวาคม 06, 2012, 09:52:22 AM » |
|
ขอบคุณ คุณDong ที่ช่วยรีวิว
พึ่งเข้าใจเรื่องไฟฉายที่บาง มันมีผลเรื่องความร้อนนี่เอง
รบกวนถามหน่อยสิครับ เห็นคุณ dong วัดเรื่องกินกระแสของไฟฉาย กับ ตอนที่วัดเครื่องชาร์จเแบต ว่าจ่ายไฟกี่ ma
ไม่ทราบพอแนะนำวิธีวัดค่าแบบง่ายๆ ไว้เป็นความรู้ไ้ด้ไม๊ครับ เพราะผมมี Clamp meter ของ kyoritsu ตัวเล็กๆ อยู่ เผื่อได้ลองวัดบ้าง
ขอบคุณครับ
เรื่องการวัดกระแส ก่อนอื่นต้องดู meter ของเราก่อนว่าวัดไฟกระแสตรงได้รึเปล่าครับ ถ้าวัดได้เราก็มาเริ่มวัดกันแบบง่ายๆก่อน เลือกไฟฉายรุ่นที่มีสวิทซ์กดท้ายมา 1 ตัว เครื่องวัดจะมี 2 แบบคือ Multimeter จะเป็นตัวสี่เหลี่ยม กับอีกแบบ Clampmeter จะมีรูไว้คล้องสายไฟ สำหรับ Multimeter ปรับเครื่องวัด ให้วัดกระแสตรง 10A เสียบสายไฟให้ถูกช่องด้วยนะ กระแสน้อยกับกระแสมาก จะเสียบแจ๊คคนละช่องกัน หมุนฝาท้ายของไฟฉายออก สายสีดำกดไปที่ขั้วลบของแบต สายสีแดงจิ้มไปที่ตัวถังไฟฉายแถวๆเกลียวตรงส่วนทีไม่มีสีปกปิด ไฟฉายจะติด ตัวเลขที่เครื่องวัดจะขึ้น อาจจะไม่นิ่งนักวิ่งขึ้นลงบ้างครับ ส่วน Clampmeter เราต้องหาสายไฟมาเส้นนึง ยาวสัก 20 ซม. ใช้เป็นสะพานไฟให้ไฟฉายติด หมุนฝาท้ายของไฟฉายออก นำสายไฟมาลองต่อดู ปลายข้างนึงจิ้มที่ขั้วลบของแบต ปลายอีกข้างแตะไว้กับตัวถังแถวๆเกลี่ยว ดูว่าไฟติดมั้ย ถ้าติดก็ลองวัดโดยนำสายไฟไปคล้องไว้กับ Clampmeter ตั้งค่าเป็นวัดกระแสไฟตรง จิ้มสายไฟตามที่ได้กล่าวมาให้ไฟฉายเปิดติด ตัวเลข ก็จะขึ้นมาให้เราดูครับ สำหรับไฟฉายที่ไม่มีปุ่มสวิทซ์ท้าย และพวกมีรางถ่านใส่แบตหลายก้อน จะวัดยากกว่า อาจจะต้องใช้ 2 คนช่วยกันจับครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
EcuMan
Newbie

ออฟไลน์
กระทู้: 13
|
 |
« ตอบ #44 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2012, 10:57:54 AM » |
|
ขอบคุณ คุณDong ที่ช่วยรีวิว
พึ่งเข้าใจเรื่องไฟฉายที่บาง มันมีผลเรื่องความร้อนนี่เอง
รบกวนถามหน่อยสิครับ เห็นคุณ dong วัดเรื่องกินกระแสของไฟฉาย กับ ตอนที่วัดเครื่องชาร์จเแบต ว่าจ่ายไฟกี่ ma
ไม่ทราบพอแนะนำวิธีวัดค่าแบบง่ายๆ ไว้เป็นความรู้ไ้ด้ไม๊ครับ เพราะผมมี Clamp meter ของ kyoritsu ตัวเล็กๆ อยู่ เผื่อได้ลองวัดบ้าง
ขอบคุณครับ
เรื่องการวัดกระแส ก่อนอื่นต้องดู meter ของเราก่อนว่าวัดไฟกระแสตรงได้รึเปล่าครับ ถ้าวัดได้เราก็มาเริ่มวัดกันแบบง่ายๆก่อน เลือกไฟฉายรุ่นที่มีสวิทซ์กดท้ายมา 1 ตัว เครื่องวัดจะมี 2 แบบคือ Multimeter จะเป็นตัวสี่เหลี่ยม กับอีกแบบ Clampmeter จะมีรูไว้คล้องสายไฟ สำหรับ Multimeter ปรับเครื่องวัด ให้วัดกระแสตรง 10A เสียบสายไฟให้ถูกช่องด้วยนะ กระแสน้อยกับกระแสมาก จะเสียบแจ๊คคนละช่องกัน หมุนฝาท้ายของไฟฉายออก สายสีดำกดไปที่ขั้วลบของแบต สายสีแดงจิ้มไปที่ตัวถังไฟฉายแถวๆเกลียวตรงส่วนทีไม่มีสีปกปิด ไฟฉายจะติด ตัวเลขที่เครื่องวัดจะขึ้น อาจจะไม่นิ่งนักวิ่งขึ้นลงบ้างครับ ส่วน Clampmeter เราต้องหาสายไฟมาเส้นนึง ยาวสัก 20 ซม. ใช้เป็นสะพานไฟให้ไฟฉายติด หมุนฝาท้ายของไฟฉายออก นำสายไฟมาลองต่อดู ปลายข้างนึงจิ้มที่ขั้วลบของแบต ปลายอีกข้างแตะไว้กับตัวถังแถวๆเกลี่ยว ดูว่าไฟติดมั้ย ถ้าติดก็ลองวัดโดยนำสายไฟไปคล้องไว้กับ Clampmeter ตั้งค่าเป็นวัดกระแสไฟตรง จิ้มสายไฟตามที่ได้กล่าวมาให้ไฟฉายเปิดติด ตัวเลข ก็จะขึ้นมาให้เราดูครับ สำหรับไฟฉายที่ไม่มีปุ่มสวิทซ์ท้าย และพวกมีรางถ่านใส่แบตหลายก้อน จะวัดยากกว่า อาจจะต้องใช้ 2 คนช่วยกันจับครับ ขอบคุณ คุณDong มากครับ ไปดู Meterแล้ว วัดได้แต่ กระแส AC ส่วนDC วัดได้แต่แรงดัน ครับ เลยไม่ได้ลองเลย 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
doraemink
Jr. Member
 
ออฟไลน์
กระทู้: 80

|
 |
« ตอบ #46 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2012, 12:53:22 PM » |
|
พี่ๆครับ E50 กับ PD32 ultimate ตัวไหนคุ้มค่าน่าใช้น่าพกมากกว่ากันครับ
ต้องถามก่อนว่าเอาไปใช้งานแบบไหนล่ะครับ เน้นพกพา หรือว่ายังไงครับ ใช่ครับ เน้นพกพา E50คงใช้แบตก้อนเดียว มันก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ แต่โดยส่วนตัวผม ออกแบบมาให้ใส่แบตได้สองก้อน ก็ควรที่จะใส่สองก้อนเพราะเป็นเรื่องของการเปิดแรงสุดแบตจะได้ไม่พัง และ runtime ของตัวมันจะนานกว่า
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
spykids69
Full Member
  
ออฟไลน์
กระทู้: 233

|
 |
« ตอบ #47 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2012, 01:16:22 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
spykids69
Full Member
  
ออฟไลน์
กระทู้: 233

|
 |
« ตอบ #49 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2012, 03:40:44 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Knott22
Jr. Member
 
ออฟไลน์
กระทู้: 57
|
 |
« ตอบ #50 เมื่อ: ธันวาคม 07, 2012, 06:12:47 PM » |
|
พี่ๆครับ E50 กับ PD32 ultimate ตัวไหนคุ้มค่าน่าใช้น่าพกมากกว่ากันครับ
ต้องถามก่อนว่าเอาไปใช้งานแบบไหนล่ะครับ เน้นพกพา หรือว่ายังไงครับ ใช่ครับ เน้นพกพา E50คงใช้แบตก้อนเดียว เน้นพกพา PD32 ultimate พกสะดวกกว่าครับ ถ้าส่องระยะใกล้ไม่เกิน 30 เมตร PD32 ultimate ก็พอ แต่ถ้าส่องไกลกว่านั้น E50 ดีกว่าครับ  ขอบคุณครับพี่โด่ง แต่ยังไงผมรอชมพี่โ่งรีวิวPD32 ultimate ด้วยดีก่า 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
dong
Exclusive Group
Super Hero Member
     
ออฟไลน์
กระทู้: 3,941
|
 |
« ตอบ #51 เมื่อ: ธันวาคม 09, 2012, 07:24:15 AM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
Akatsuki999
Jr. Member
 
ออฟไลน์
กระทู้: 57

|
 |
« ตอบ #53 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2012, 06:44:09 PM » |
|
Runtime ครับ  ทดสอบในห้องแอร์และมีพัดลมเป่าใช้ไฟฉาย เปิดโหมด Turbo ต่อเนื่อง ตัวนี้จะตัดเป็น Hi ทุก 15 นาที พอตัดลง Hi ผมก็กดเปลี่ยนโหมดเป็น Turbo ทันที จะหยุดเมื่อแสงเหลือ 50% หรือตัดดับครับ ใช้แบต dinosaur 3400 mA สองก้อนในการทดสอบ เริ่ม  10 นาที  20 นาที  30 นาที  ให้ดูจังหวะตัดเหลือ Hi ครับ  แล้วผมก็กดเป็น Turbo (กดทุกๆ 15 นาที)  1 ชั่วโมง  1ชั่วโมง 15 นาที  1 ชั่วโมง 30 นาที  1 ชั่วโมง 50 นาที  2 ชั่วโมง  ตัดดับที่ 2 ชั่วโมง 6 นาที  เป็นไฟฉายที่รักษาระดับได้ดี มีขึ้นลงบ้างตามอุณหภูมิห้อง แต่ใช้งานจริง ถ้าอากาศไม่หนาวมาก ไม่ควรเปิด Turbo ต่อเนื่องยาวๆนะครับ ไฟฉายจะร้อนจัด ถ้าไม่กดเป็น Turbo หลังจากตัดแล้ว จะได้ Runtime ยาวขึ้นอีกเยอะครับ  ขอบคุณครับ น่าสนใจมากครับผมธรรมดาใช้แค่โหมด มีเดี้ยม กับ โลว์ นานๆจะใช้ ไฮ กับ เทอร์โบ ที Runtime ได้นานด้วย น่าจะคุ้มมากมายครับ 
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
Kriang
Jr. Member
 
ออฟไลน์
กระทู้: 51
|
 |
« ตอบ #57 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2012, 02:25:48 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
dong
Exclusive Group
Super Hero Member
     
ออฟไลน์
กระทู้: 3,941
|
 |
« ตอบ #58 เมื่อ: ธันวาคม 24, 2012, 04:54:11 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
Sorawat
Jr. Member
 
ออฟไลน์
กระทู้: 132

|
 |
« ตอบ #63 เมื่อ: ธันวาคม 28, 2012, 11:36:24 AM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
thai168
Newbie

ออฟไลน์
กระทู้: 15
|
 |
« ตอบ #68 เมื่อ: พฤษภาคม 21, 2013, 06:40:36 AM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
pradungsak
Newbie

ออฟไลน์
กระทู้: 1
|
 |
« ตอบ #70 เมื่อ: ธันวาคม 27, 2014, 03:25:06 PM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|